ข้อมูลเบื้องต้น
สวัสดีชาวเด็กดีทุกๆท่าน เรามีชื่อว่าโคซี่หรือจะเรียกเราว่าไรท์ก็ได้
เข้าเรื่องเลยละกัน ฟิคเรื่องนี้แต่งเพื่อสนองความต้องการส่วนตัวของไรท์เหมือนที่ผ่านๆมา
เป็นเรื่องของ แฮร์รีสัน เวลส์ x แบรี่ อัลเลน นะคะ ช่วงเวลาในฟิคนี้จะอยู่ในซีซั่น 1 นะคะ
ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ มีข้อผิดพลาดอะไรต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยคะ
คำเตือน! นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย ใครรับไม่ได้กรุณากดปิดด่วน
อาจมีการเปลี่ยนช่วงเวลาและอะไรหลายๆอย่างภายในฟิคนี้กรุณาเข้าใจด้วยนะคะ^^
Harrison wells x Barry Allen from The Flash season 1
ณ ถนนเวตเทล สาย 3 ใจกลางเซนเทล ซิดตี้
"แบรี่...แบรี่!"
"อะไร...ฉันพลาดอะไรไป" ชายในชุดสูทสีแดงมีวงกลมสีเหลืองอยู่ตรงกลางและมีสัญลักษณ์สายฟ้าหรือ แบรี่ อัลเลนพูดกับเครื่องสื่อสาร
'อือ...ตอนนี้นายเลยมา 3 บล็อกเพื่อน' เสียงทุ้มพูด
"ให้มันได้อย่างนี้สิ...ฟึบ!" ชายในชุดสูทวิ่งด้วยความเร็วที่คนปกติมองไม่เห็น
ตอนนี้เขาอยู่หน้าอพาร์ทเม้นที่กำลังไฟไหม้และมีคนบาดเจ็บมากมายบ้างก็ยังติดอยู่ในนั้น
"ลูกฉัน...ลูกฉันอยู่ไหม...มีใครเห็นลูกสาวฉันไหม"
"ใครก็ได้! มาช่วยทางนี้ที"
ฟึบ
ตอนนี้แบรี่ได้วิ่งเข้าไปในนั้นเรียบร้อยแล้ว
ตัดมาทางสตาร์แล็บ
"นายถึงรึยังเนีย" ซิโก้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดโดยไม่รู้ว่ามีใครกำลังเข้ามา
"นายทำอะไรนะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นเธอคนนั้นคือ เค็ทลิน สโนว์
"ฮือ! อะ เออ...เปล่านิ" ซิสโก้ตกใจและกดปิดคอมทุกตัวที่อยู่ตรงหน้าเขา
"เมื่อกี่นายคุยกับใคร...แบรี่เหรอ"
"ฮือ...ใครกัน" ซิสโก้
"แบรี่ อัลเลน คนที่โดนผ่าฟ้านอนโคม่าอยู่ 9 เดือนเต็ม พอฝื้นมาก็วิ่งเร็วยิ่งกว่าเสียงนะ พอคุ้นๆไหม"
"ไม่ๆ ฉันไม่ได้คุยกับใครสักหน่อย" ซิสโก้พูดแก้ตัวแต่...
'ซิสโก! ไฟลามไปหมดแล้ว จะทำไงดี' อยู่ๆเสียงของแบรี่ก็ดังขึ้น
'ซิสโก้ ได้ยินไหม!'
"จบงานนี้เราต้องคุยกัน" เธอพูด
"ชะอุบ"
ภายหลังจากที่แบรี่สามารถช่วยทุกๆคนออกมาจากอพาร์ทเม้นที่ไฟไหม้ได้แล้ว พวกเขาสองคนก็ต้องมานั่งฟังเค็ทรินบ่นกันต่อไป
2 นาทีผ่านไป
ในที่สุดเธอก็บ่นจบและแถมท้ายด้วยคำเตือนจาด็อกเตอร์เวลส์ 'ควบคุมอารมณ์' จากนั้นพวกเราก็แยกย้าย
"แบรี่...ฉันขอคุยด้วยหน่อย" เวลส์พูด
"คร้บ"
"ตามฉันมา" จากนั้นเวลส์ก็นำแบรี่ออกไปคุยกันตามลำพัง
"แบรี่ ฉันไม่ชอบเลยที่เธอออกไปทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้" เวลส์
"โถ่ แฮรี่ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" แบรี่พูด
"ตอนนี้ใช่ ตอนนี้เธอยังแต่ต่อไปไม่แน่" เวลส์พูด
"ไม่เอาน่า คุณไม่เห็นต้องห่วงอะไรขนาดนั้นเลยนะครับ แฮรี่" แบรี่พูด
"ที่ฉันห่วงเพราะเธอสำคัญนะแบรี่ เพราะฉันแคร์เธอ เข้าใจใช่ไหมแบรี่ ฉันแคร์เธอ" เวลส์พูดออกมาอย่างเหลืออด
"ครับ...ผมเข้าใจแต่.." แบรี่กำลังจะพูดต่อแต่เวลส์ก็ขัดขึ้นมาก่อน
"สงสัยว่าเธอคงยังไม่เข้าใจที่ฉันพูด แบรี่ อัลเลน งั้นฉันจะพูดให้ชัดๆ ฉันเป็นห่วงเธอเพราะเธอคือ คนรักของฉัน ชัดพอไหมคุณอัลเลน" เวลส์พูด
"คะ...ครับ" แบรี่พูดอย่างเขินๆ
ตอนนี้แบรี่รู้สึกอยากหายไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
เขาไม่คิดว่าคนอย่างด๊อกเตอร์ แฮร์รี่สัน เวลส์ จะพูดคำว่า คนรัก
ออกมาและยังเน้นคำว่า ของฉัน อีก
อากกกตอนนี้เขาเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว
ถึงพวกเราจะคบกันมาเกือบ 1 ปีแล้วก็ตามที โดยไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์นี้ของพวกเราเลยสักคน
มันคงเป็นเรื่องบังเอินมากๆในตอนที่พวกเขา
2 คนได้เจอกันในครั้งแรก
ใครจะไปคิดละว่าการที่เขาไปสอนไอริสในวันนั้นจะทำให้เขาได้เจอกับดร.เวลส์
นักวิทยาศาสตร์ในดวงใจคนนั้น
ตอนนั้นมันเป็นเวลาที่ดึกมาก
ผมเพิ่งแยกจากไอริสไม่นานและกำลังจะเดินกลับห้อง แต่ผมดันไปเดินชนคนเข้า
ชนแรงจนผมเกือบลงไปจูบกับพื้นดีที่มีคนมารับไว้ได้ทัน
ใครคนนั้นก็คือคนที่ผมชน
หลังจากนั้นเพื่อเป็นการขอโทษผมจึงอาสาพาไปเลี้ยงกาแฟ
พอได้แนะนำตัวเขาก็ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็นเลยเมื่อรู้ว่าคนที่ผมชนนั้นคือ
นักวิทยาศาสตร์ในดวงใจของผม ดร.แฮร์รีสัน เวลส์
เขาเป็นคนที่ผมนั้นชื่นชมเอามากๆ
พอได้คุยกันเขากับไม่เหมือนกับที่ใครต่างว่าเขาเลยสักอย่าง
ทุกคนต่างลงความเห็นเดียวว่า เขาเป็นคนที่ หยิ่ง เอาแต่ใจ ไม่เคยเห็นหัวใคร
แต่ชายที่ผมเจอนั้นมันไม่ใช่เลย แฮร์รี่สัน เวลส์
ที่ผมเจอเขาเป็นคนที่ ตลก เป็นกันเอง อ่อนโยน
หลังจากผ่านเหตุการณ์บังเอินนั้นพวกเราก็ได้นัดเจอกันอีก
ถึงแรกๆผมจะเกรงไปบ้างแต่พอนานวันเข้า
เมื่อผมได้อยู่กับเขาผมรู้สึกสบายใจ สงบ อย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน
ตั้งแต่คืนที่แม่ตาย แต่เมื่ออยู่กับชายคนนี้เขากับรู้สึกแบบนั้น
พวกเราคุยกันได้ 5 เดือน อยู่ๆเขาก็มาขอผมคบ เชื่อไหมตอนนั้นผมตกใจมาก เราเป็นผู้ชายกันทั้งคู่แต่เขากับมาขอผมคบ
แต่ทำไงได้ผมชอบเวลาที่ได้อยู่กับเขา
เวลาที่คุยกับเขา
ผมก็เลยขอดูใจไปก่อนจากนั้นเขาก็เริ่มเล่าเรื่องของเขาให้ฟังในเวลาเกือบ 1
ปี พวกเราต่างค่อยดูแลกันและกัน
ผมบอกแล้วว่าความสัมพันธ์นี้ของพวกเราไม่มีใครรู้
พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะปิดแต่แค่ไม่อยากมานั่งตอบคำถามเยอะแยะและขออยู่แบบเป็นส่วนตัวดีกว่า
ทุกอย่าเป็นไปได้ด้วยดีจนวันหนึ่ง
วันที่ความฝันของเขาจะได้เป็นจริงในวันนั้นผมกับไอริสไปที่สตาร์แล็บเพื่อไปดูเขา
เขาดูมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ผมชอบรอยยิ้มของเขาในวันนั้น
รอยยิ้มของเขา
แต่ดันมีเรื่องไม่ดีเกินขึ้นก่อนผมกับไอริสเลยต้องกลับก่อนที่งานจะเลิก
น่าเสียดายนิดหน่อยแต่ก็ได้เห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็ถือว่าคุ้มแล้วละ
แต่ผมไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะเป็นวันที่พรากเกือบทุกอย่างของเขาไปและจะทำให้ผมได้พลังบางอย่างมา
ในวันนั้นเกิดความผิดพลาดขึ้นมีคนเสียชีวิตมากมาย
เกิดอุบัติเหตุมากมายหนึ่งในนั้นคือผม ผมโดนสายฟ้าสาดเข้าจนต้องหลับไป 9
เดือนเต็มตื่นมาอีกทีก็อยู่ที่สตาร์แล็บ
ผมเห็นเขาเป็นคนแรกหลังจากตื่นขึ้นมา สภาพของเขามัน...แย่มาก เขาต้องนั่งอยู่บนรถเข็นในวันนั้นมันทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้
ใจหนึ่งอยากจะเข้าไปกอดเขาแต่อีกใจก็ยังพอมีสติยัง ยั้งตัวเองเอาไว้ได้ทันเพราะในนั้นไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคน
หลังจากตื่นมาผมได้รับการอธิบายเรื่องระหว่างที่ผมหลับไป
และผมก็ได้รู้ว่าจากเหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมสามารถวิ่งเร็วได้ เร็วจริงๆ
ชนิดที่ว่าไม่มีใครมองทัน
นั้นแหละคือเรื่องทั้งหมดกลับมาปัจจุบัน
"นี้มันยังอยู่ในสตาร์แล็บนะครับ" แบรี่พูด
"แล้วไง...เธอสนเหรอ" เวลส์พูด
"สนสิครับ ถ้าซิสโก้กับเค็ทรินมาได้ยินจะทำยังไง" แบรี่พูด
เขายังไม่อยากมาให้สองคนนั้นรู้ตอนนี้นะ
"เอาเถอะ ฉันว่าเธอควรกลับไปพักที่บ้านก่อนแล้วกันนะ...หรือจะไปบ้านฉันดีละ" เวลส์พูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่
"มะ ไม่ดีกว่าครับ ผมมีนัดกลับไอริสนะ" แบรี่พูดอย่างไม่ไว้ใจอีกฝ่าย
ก็แหงสิยิ้มแบบนั้นที่ไรเขาเสร็จอีกฝ่ายทุกที
"รู้ไหม...ฉันชักจะหึงแล้วสิ" เวลส์พูด
"ฮาฮา
ไม่เอาน่า คุณก็รู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว
และอีกอย่างผมไม่นอกใจคุณหลอกน่าดร.ของผม...จุ๊บ...ไปละครับ"
แบรี่พูดแล้วจุ๊บแก้มเวลส์ไปทีหนึ่งก่อนจะรีบออกไป
"หึหึ เด็กน้อยของฉัน บทเธอจะกล้าก็กล้าจนหน้าหมันไส้บทจะเขินก็เขินจนน่ารักจริงๆ" เวลส์พูดพร้อมจากไป
จากนั้นไม่นานได้เกิดเหตุการณ์ปล้นขึ้นด้วยฝีมือเมต้าฮิวแมน(ตามเหตุการณ์ตอนที่ 2)
"อึก...อย่านะ"
"ตึก"
หลังเหตุการณ์พยายามฆ่าสแตกร์ของเมต้าฮิวแมนแดตั้น แบล็คเขาก็ฆ่าตัวตายไป
ณ สตาร์แล็บ
'เจ้านะที่สรุปว่า อดีตพนักงานแดตั้น แบล็ค_____"
"ผม...ผมพยายามแล้วแต่..." แบรี่
"บางคนเมื่อแตกหักไปแล้วก็ยากที่จะกลับคืน" เวลส์
"แต่นายก็ทำดีมากนะแบร์งานนี้" โจ
"ใช่/ถูกเพ็ง" เค็ทลินกับซิสโก้
"ครับ...ผมขอตัวก่อน" แบรี่พูดจบก็หายไปจากห้องอย่างเร็ว
"เอาละ ทุกคนไปพักได้แล้ว วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว" เวลส์พูดพร้อมจากไป
ณ บริษัทสแตกร์ ห้องทำงานผอ.
"หือ เวลส์...ใครปล่อยให้นายเข้ามา" สแตกร์ถามเมื่อเห็นคนที่ไม่น่าจะอยู่ที่นี้ได้ปรากฎตรงหน้า
"หึ...นายจัดงานเลี้ยงอยู่เหรอ" เวลส์ไม่ตอบแต่ถามกลับแทน
"คงเห็นในทีวีแล้วนะ...อดีตพนักงานคนหนึ่งพยายามฆ่าผม" สแตกร์พูด
ภายในใจของเวลส์ตอนนี้กำลังคิดว่า เจ้าพนักงานคนนั้นน่าจะฆ่าเจ้านี้ให้สำเร็จซะก็ดี
"อดีตพนักงานที่สามารถแยกร่างได้...และเข้าสู้กับคนที่มีพลังความเร็วสูง" เวลส์
"คุณก็เคยเห็นเขาเหมือนกันใช่ไหม" สแตกร์
"หึ...ใช้...ผมเคยเห็น" เวลส์
"วิเศษจริงๆ" สแตกร์
"พลังของเขาเหมือนกับพระเจ้า
นึกสิว่าถ้าเรามีพลังนั้น ถ้าเราได้มันมา
เราจะเปลี่ยนทุกอย่างได้.......ชายสวยชุดแดงนั้นคือกุญแจ...และผมจะตามล่าเขา"
สแตกร์พูด
ตอนนี้ภายนอกแฮร์รี่สัน เวลส์อาจดูสงบแต่ข้างในจิตใจของเขากำลังโกรธเกรี้ยวตอนนี้เขาอยากจะฆ่าคนตรงหน้าใจจะขาด บังอาจมาคิดร้ายกับคนของเขา
"...ชายในชุดแดงนั้น" เวลส์พูดพลางถอดแว่นที่เขาสวมอยู่ออก
"เขาชื่อ เดอะแฟลช หรืออย่างน้อยก็เป็นชื่อในอนาคตของเขา" เวลส์พูดเสร็จก็ลุกจากรถเข็นของเขา
"อะไรกัน" สแตกร์พูดอย่างตกใจที่เวลส์สามารถยืนได้
อึก
"ขอโทษนะไซมอน แต่ผมคงปล่อยให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้" เวลส์ใช่มีดที่เขาพกมาแท่งเขาที่ท้องของสแตกร์
"นี้มันไม่ใช่ความบาดหมางส่วนตัวของผมหลอกนะ
มันก็แค่...ชายในชุดแดง...มนุษย์ที่เร็วที่สุดคนนั้น...เขาจะต้อง...ปลอดภัย...แบรี่จะต้องปลอดภัย"
จากนั้นเวลส์ก็จัดการทำรายหลักฐานทั้งหมดไป
ณ บ้านเวลส์
หน้าบ้านนั้นได้มีคนๆหนึ่งยืนรอเจ้าของบ้านกลับมาอยู่ และในที่สุดเขาก็กลับมา
"เฮ้ย...เธอรอฉันอยู่นานรึยังเนียแบรี่" เวลส์พูด
"ออ..สักพักแล้วนะครับ...เออ...คือว่าผม.." แบรี่
"หึหึ...เข้ามาก่อนสิแบรี่ คิดซะว่าที่นี้ก็เหมือนบ้านของอีกหลัง เธอมาที่นี้ออกบ่อยนี้" เวลส์พูดหยอกล้อ
"-///- คะ...คือผมว่า...ผมกลับดีกว่า" แบรี่พูดและเตรียมตัวหันหลังกลับถ้าไม่มีใครมาจับมือเขาไว้ก่อน
"เดียวสิ..เธอจะรีบกลับไปไหน...เข้ามาคุยกันก่อนสิฉันแค่หยอกเล่นเองไม่เอาน่าแบรี่" เวลส์พูดและดึงตัวแบรี่เข้าไปในบ้าน
พอเข้ามาชายอายุมากกว่าก็ลุกออกจากรถเข็นและจัดการลากคนอายุน้อยกว่ามานั่งที่โซฟาด้วยกัน
"ระวังหน่อยสิครับแฮรี่ ขาคุณไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ" แบรี่ว่า
เขารู้ว่าเวลส์ไม่ได้ถึงกับพิการแต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก
หากใช่งานหนักเกินไปขาก็จะล้าและไม่มีแรงที่จะเดิน
เพราะฉะนั้นถึงต้องนั่งอยู่บนรถเข็นด้วย
"ไม่เป็นไรน่า ที่ฉันสนใจตอนนี้ไม่ใช่เรื่องขาฉันแต่เป็นเธอแบรี่...เธอกำลังกลุ้มใจอยู่ใช่ไหม" เวลส์พูด
เพราะถ้าแบรี่ของเขาไม่มีเรื่องที่ต้องคิดมากหรือกลุ้มใจจริงๆ
ก็ไม่มีทางที่แบรี่จะมาที่บ้านเขาเองแน่นอน(ปกติเขาต้องเป็นคนลากอีกฝ่ายมา)
"เฮอ...ภาพนั้น...ภาพตอนที่แบล็คตกลงไป...มัน...ยังติดตาผมอยู่แฮรี่
ผมช่วยเขาไว้ไม่ได้...ผมทำให้เขาต้องตาย..ผม...ผม"
แบรี่พูดยังไม่ทันจบเขาก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งของอีกคนซะแล้ว
"แบรี่ฟังฉัน...เธอไม่ผิด
เขาเลือกแบบนั้นเอง
เธอพยายามช่วยเขาแล้วแต่เขาเลือกที่จะตาย...แบรี่ถ้าเขาคิดแบบนั้นเธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเข้าได้หลอก...เชื่อฉันสิ
เพราะฉะนั้นอย่าโทษตัวเองแบรี่...อย่าโทษตัวเอง"
เวลส์พูดพร้อมกอดแบรี่แน่นขึ้น
"อึก...ผม...ฮือ..." แบรี่ซุกตัวเข้าหาความอบอุนของอีกฝ่าย
"ฉันอยู่ตรงนี้แบรี่...อยู่ตรงนี้กับเธอ..." เวลส์พูด
"...แฮรี่..."
"หือ...มีอะไรเหรอ" เวลส์
"ขอบคุณนะครับ...ที่ค่อยอยู่ข้างๆผม...ตลอดมา" แบรี่พูด
"ฉันต่างหากแบรี่ที่ต้องขอบคุณเธอ...ขอบคุณที่ค่อยอยู่ข้างๆฉันในวันที่ฉันสูยเสียทุกสิ่ง...ทั้งๆที่ฉันเป็นคนที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้...เธอกลับให้อภัยฉัน...ถ้าหากวันนั้นมันทำให้ฉันต้องเสียเธอไปละก็...ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ...แบรี่...ฉันรักเธอนะ"
เวลส์พูด
"ผมก็เหมือนกันครับ...ผมไม่สนว่าสิ่งที่คุณทำจะเป็นอย่างไร...ขอเค่มีคุณอยู่ตรงนี้...กับผมก็พอแล้ว...ผมไม่เคยขออะไรไปมากกว่าแค่ได้อยู่กับคุณแฮรี่...ไม่ว่าใครจะมองคุณยังไง...ผมก็ยังรักคุณนะครับ
แฮรี่" แบรี่พูด
"หึหึ เด็กน้อยของฉันดูสิกลายเด็กขี้แยซะแล้ว" เวลส์
"ใครเด็กน้อยของคุณกัน" แบรี่พูด
"ก็เธอไง แบรี่" เวลส์
"ไม--อือ" แบรี่จะพูดต่อแต่โดนคนตรงหน้าจัดการปิดปากบางด้วยปากของตน
ทั้งสองจูบกันกันอยู่นานจนแบรี่ไม่ไหว และเวลส์จึงปล่อยอีกฝ่ายด้วยความเสียดาย
"คนฉวยโอกาศ" แบรี่
"หึหึ"
The End
เอะ...จบแบบงงแหะ
เย้จบแล้ว
อาจแต่งได้ไม่ดีหรืออิมเมจของตัวละครไม่เหมือนกัน ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องจากเพิ่งเคนแต่งฟิค DC ครั้งแรกเลยอาจติดๆขัดไปบ้าง
ขอให้สนุกนะคะ^^
ความคิดเห็น